เทคนิคจิบไวน์ให้อร่อยขึ้น 🍷🍾

https://bit.ly/2kx1m9X

เทคนิคจิบไวน์ให้อร่อยขึ้น 🍷🍾

ไวน์อาจไม่ใช่เครื่องดื่มที่ฮิตที่สุดในบ้านเรา แต่ถ้าลองได้ดื่มดูสักครั้ง รับรองว่าต้องมีครั้งต่อไปตามมาแน่ๆ 🎈 แต่ด้วยความที่ไวน์มีหลายประเภท หลายคนอาจจะงง ไม่รู้จะเลือกดื่มแบบไหน หรือต้องดื่มคู่กับอะไร ✨ วันนี้เลยนำข้อมูลพื้นฐานที่ควรรู้ก่อนที่จะดื่มไวน์มาฝากกัน เพื่อทำให้เราดื่มไวน์ได้อร่อยขึ้นค่ะ

คำศัพท์หลักๆ ที่ใช้ในการเรียกไวน์ จะแบ่งออกเป็น ไวน์โลกเก่า 
🍎Old World คือ ไวน์ที่ผลิตในประเทศฝั่งยุโรปซึ่งมีอากาศเย็นเหมาะกับการเติบโตขององุ่นสายพันธุ์ดี🍇 และมีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการผลิตไวน์มายาวนาน กับไวน์โลกใหม่ 🍋 New World ซึ่งจะเป็นไวน์ที่ผลิตจากแถบอเมริกาและประเทศอื่นๆ โดดเด่นที่เทคนิคการบ่ม กลิ่นและรสชาติจะชัดเจนกว่าภาษาไวน์เรียกว่า 🍒 Full body คือ มีความหนักมากกว่า อาจจะติดรสเปรี้ยวและมีความเป็นผลไม้สูงกว่าเมื่อเทียบกับไวน์โลกเก่า 🍓 แต่ถ้าแบ่งตามประเภท หลักๆ ก็จะมีดังนี้

💟 Sparkling Wine
คือไวน์ที่มีพรายฟอง ที่เราคุ้นเคยกันก็คือ แชมเปญ 🍾 (Champagne) จนเราคิดว่าไวน์ที่มีฟองทุกชนิดคือแชมเปญ แต่ที่จริงแล้ว Sparkling Wine 🍸 ที่ผลิตจากแคว้นแชมเปญในฝรั่งเศสเท่านั้น ถึงจะได้รับอนุญาตให้เรียกว่าแชมเปญค่ะ Sparkling Wine เหมาะที่จะดื่มคู่กับอาหารจานแรก เพราะฟองจะทำให้ปลายประสาทที่ลิ้นตื่นตัว ให้รสสดชื่น และเข้ากันดีกับเมนูหอยนางรม (Oyster) เนื้อไก่ 🍗 หรืออาหารไทยรสจัดจ้าน

💟 White Wine
ไวน์ขาว คือ ไวน์ที่ได้จากการหมักองุ่นขาว โดยไวน์ขาวแบบ Light Body รสเบาๆ จะเหมาะกับอาหารประเภทซุป 🍵 สลัด ไก่ ปลา อาหารทะเล 🍤 ส่วนแบบ Full Body จะเหมาะกับพาสต้าครีมซอสทั้งหลายที่มีรสชาติเข้มข้น ไวน์ขาวจึงต้องมีรสเข้มข้นเพื่อส่งเสริมกัน ช่วยให้อาหารที่กินคู่กับไวน์ขาวในมื้อนั้น มีความกลอมกล่อมมากขึ้น

💟 Red Wine
ไวน์แดง เกิดจากการหมักองุ่นแดงและเหมาะกับอาหารประเภทเนื้อแดงต่างๆ ไวน์แดงแบบ 🍷 Light Body จะเหมาะกับเนื้อเป็ด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไปได้ดีกับปลาแซลมอนหรือปลาหิมะที่ให้รสสัมผัสค่อนข้างแน่นและมัน นั่นแปลว่าไวน์แดงบางขวดก็อาจจะเหมาะกับเมนูที่เป็นปลาได้ด้วย 🐟ไม่จำเป็นต้องเป็นไวน์ขาวเสมอไป ส่วนไวน์แดงที่ Full Body จะเหมาะกับเมนคอร์สอย่างเมนูที่เป็นเนื้อวัว เนื้อแกะ หรือเนื้อหมูค่ะ

💟 อุณหภูมิในการเสิร์ฟไวน์
อุณหภูมิที่เหมาะกับการเสิร์ฟไวน์นั้น จะแตกต่างกันไปค่ะ Sparkling Wine เหมาะกับการเสิร์ฟเย็นจัดที่ 4-5 องศาเซลเซียส 💦 เอาออกมาจากตู้เย็นแล้วควรดื่มเลย ในขณะที่ไวน์ขาว เหมาะกับอุณหภูมิที่สูงขึ้นมาประมาณ 7-8 องศาเซลเซียส เอาง่ายๆ เอาไวน์ขาวออกจากตู้เย็นประมาณ 20 นาที แล้วค่อยดื่ม ก็จะได้อุณหภูมิที่เหมาะสมค่ะ 🍧 หรือลองแตะแก้วดู ไวน์ขาวควรจะอุ่นกว่าน้ำที่เปิดออกมาจากตู้เย็นนิดหน่อย ส่วนไวน์แดงนั้นจะต่างออกไป ควรเสิร์ฟในอุณหภูมิ 18-20 องศาเซลเซียส เพราะยิ่งเย็นจะยิ่งขม แค่นำไปแช่ตู้เย็นประมาณ 20 นาทีก่อนดื่มก็ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมแล้วค่ะ

💟 แก้วที่ใช้ในการเสิร์ฟไวน์
แก้วที่ใช้ในการเสิร์ฟไวน์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันนะคะ สำหรับ Sparkling Wine 🥂 ต้องใช้แก้วฟลุต (Flute) ที่แคบและสูง เพื่อให้ถูกอากาศน้อยและสามารถเก็บพรายฟองได้ยาวนานขึ้น ส่วนแก้วไวน์จะต้องมีขนาดใหญ่ กลมป้อม ปากแก้วงุ้มเข้ามาเล็กน้อยเพื่อเก็บกลิ่นไวน์ให้อวลในแก้ว 🍹 ส่วนแก้วไวน์ขาวจะเล็กกว่าแก้วไวน์แดง รินพอดื่มหมดในสองสามครั้ง ที่แก้วไวน์แดงต้องมีขนาดใหญ่กว่า ก็เพื่อให้เห็นสีสันของไวน์ได้ชัดเจนขึ้นค่ะ นอกจากนี้แก้วไวน์ที่ดีต้องบาง เพราะมีผลต่อสัมผัสต่างๆ เวลาจับแก้ว และยกขึ้นจิบที่ริมฝีปากนั่นเองค่ะ 💋

คราวนี้ก็รู้ข้อมูลพื้นฐานของไวน์ไปแล้วนะคะ น่าจะเลือกดื่มไวน์ได้อย่างสนุกขึ้น 💞 และถ้าอยากดื่มด่ำกับรสชาตินุ่มๆ ของไวน์ประเภทต่างๆ แล้วละก็ ไม่ต้องไปไหนไกลค่ะ เรียนเชิญที่ AINU Bar ได้เลยนะคะ 😘 เราพร้อมเสิร์ฟความสดชื่นให้กับคุณลูกค้าในทุกๆวันแน่นอนค่ะ